เที่ยวดอยแม่สลอง

คิวว่างตรงกับหลาน ก็นัดกันออกไปเที่ยวแบบไม่ใช้รถส่วนตัวอีกทริป ทริปนี้เราเลือก “แบกเป้ นั่งรถสองแถว ขี่มอเตอร์ไซต์ ตะลุยดอยแม่สลอง” เราเลือกเดินทางไปช่วงนี้เพราะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ฝนจางหาย มีลมหนาวพัดโชยมาบ้างแล้ว จึงต้องรีบขึ้นดอยกัน ก่อนจะหนาวจัด! และก่อนที่จะเป็นช่วงเทศกาลที่มีนักท่องเที่ยวจากที่อื่นขึ้นไปเที่ยวกันจนล้นดอย เหตุผลที่เลือกไป “ดอยแม่สลอง” เพราะว่า ไม่เคยไปนานมากๆ นับจำนวนปีไม่ถูกเลยทีเดียว…. จำภาพแม่สลองเมื่อก่อนได้ว่า มีเพียงไปดูต้นซากุระ ไปดูบ้านพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และวิว สมัยนั้น ทางขึ้นไปมีเส้นทางเดียว คือ ตรงแยกบ้านป่าซาง ซึ่งเป็นทางคดเคี้ยว และสูงชัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็มีการสร้างถนนเพิ่มอีกเส้นทางหนึ่งคือ ตรงแยกกิ่วสะไต เส้นทางนี้ ขับรถได้แบบสบายๆ ก็มีคดเคี้ยว และสูงชัน เท่ากับเส้นทางเดิม ขับไปแบบไม่ซีเรียส ช่วงที่ไปนี้ถนน มีชำรุดอยู่ช่วงหนึ่ง และมีบางช่วงที่ปรับปรุงเสร็จแล้ว  ร่องรอยการปรับปรุง ลาดยางยังใหม่ เหมือนวิ่งอยู่บนนถนนใหม่เลยแหละ มีภาพประกอบด้านล่าง เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ขับรถมาเอง ได้มั่นใจว่า ถนนขับไปได้ สบาย ไม่ต้องซีเรียส แต่มีจุดที่ต้องเตือนคือ ถนนที่ขึ้นไปยังพระบรมธาตุ เจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ที่อยู่บนดอยแม่สลอง ไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นไป หากไม่ชำนาญในการขับขึ้นเขาที่คดเคี้ยวและสูงชัน ทางขึ้น จะชันมากๆ แนะนำให้ใช้ทางเดินบันไดขึ้นไปแทน ประมาณ 900 ขั้น ปลอดภัยกว่าขับรถขึ้นเอง ^-^

เกริ่นมาซะยาวเหยียด เล่าเริ่มต้นของการเดินทางแบบ นั่งรถสองแถว ขึ้นดอยแม่สลอง เลยละกัน การขึ้นไปยังดอยแม่สลอง นอกจากจะใช้รถส่วนตัวขึ้นไปแล้ว ก็มีบริการ

รถประจำทางสองแถว ที่จอดอยู่หน้าตลาดแม่จัน (กาดแลง)

เวลาที่รถออก 07.30 น. 09.00 น. 11.00 น. และ 13.00  น. ค่าโดยสาร คนละ 60 บาท

เราเลือกเที่ยวรถเวลา 09.00 น. ขึ้นไปนั่งมีผู้โดยสาร 5 คน แต่นั่งขึ้นดอยแม่สลอง 3 คน อีก 2 คน ลงหมู่บ้านระหว่างทาง ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆ ทุ่งนา ดอยจระเข้ หมู่บ้านต่างๆ ให้ดูตลอดทาง

เมื่อรถวิ่งไปถึง บ้านกิ่วสะไต ก่อนจะถึงแยกกิ่วสะไต รถสองแถวจะจอดแวะพักรถ เพื่อรอรับผู้โดยสารที่นั่งรถมาจากฝั่ง ท่าตอน เชียงใหม่ หรือผู้โดยสารอื่น ที่จะขึ้นดอยแม่สลอง ก็จะมีการต่อ หรือเปลี่ยนรถกัน ณ จุดนี้ รถที่เรานั่งมาจอดประมาณ 30 นาที เรียกได้ว่า ชิว มาก ฮาๆ จากเดิมเรานั่งมากัน 3 คน ก็มีผู้โดยสารเพิ่มมาอีก 4 คน รวมเป็น 7 คน

รถออกจากจุดพักเวลา 10.30 น. ถึงแยกกิ่วสะไต ก็เลี้ยวขวาขึ้นดอยแม่สลองกันต่อไป ทางเริ่มคดเคี้ยว ขึ้นเขา ลงเขา แต่รถก็ไปได้สบายๆ เราก็ถ่ายรูปกันตลอดทางที่รถวิ่งผ่าน ชื่นชมธรรมชาติกันสุดๆ

ช่วงที่ถนนชำรุด ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็เจอถนนที่ปรับปรุงแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เขาจะเว้นไว้ทำไม!

เราถึงแม่สลองเวลาประมาณ 11.30 น.

รถไปจอดตรงจุดจอด เขาเรียกว่า center point ด้วยความบังเอิญที่เราจองโรงแรมไว้ก่อนมา  บังเอิญที่จุดจอดดังกล่าว  อยู่หน้าโรงแรมเลย โชคดีมากเลย เช็คอินที่พักเรียบร้อย ได้ห้องวิวดีด้วย วิวที่เห็นหมู่บ้าน เห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วย เจอเจ้าของโรงแรมอัธยาศัยดีมากๆ โรงแรมมีบริการให้เช่ามอเตอร์ไซต์ด้วย วันละ 200 บาท เราเช่ามา 1 คัน เกียร์ธรรมดา แบบอัตโนมัติไม่เอา เพราะการขี่มอเตอร์ไซต์ขึ้นดอย ลงดอย เกียร์ธรรมดาจะมันส์กว่ามาก อีกอย่าง ถนัดขี่เกียร์ธรรมดามากกว่าด้วย ทางโรงแรมมีแผนที่แนะนำที่เที่ยวให้ด้วย และแนะนำร้านที่น่ากิน น่านั่ง มีตรงไหน เขาอธิบายให้ฟังหมด เราก็จัดลำดับสถานที่ และจุดต่างๆ ที่จะไปกันแป๊ปหนึ่ง ก็แว๊นซ์เลย

สถานที่แรก ตลาดชา จริงๆ สถานที่แรกกะว่าจะไปหาร้านทานข้าวก่อน แต่ดูเวลายังไม่เที่ยงดี และยังไม่หิวเท่าไหร่ ก็เลยเดินเล่นตรงตลาดชาก่อน เป็นแหล่งรวมร้านขายชา ขายของต่างๆ ทั้งของฝาก งานฝีมือ มีชาวเขามาเดินขายด้วยก็มี เดินเล่นกันนิดหนึ่ง

ใกล้ๆ ตลาดชา มีตลาดชนเผ่า ด้วย เลยเดินออกมาดู เผื่อจะได้ซื้ออะไรกลับบ้าน

สถานที่ลำดับ 2  กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จึงมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่ขายอาหารยูนนาน ที่เขาแนะนำเป็นร้านท้องถิ่น มี 3-4 ร้าน รสชาติก็คล้ายกัน เมนูต่างๆ ก็จะคล้ายกัน ราคาไม่แพง ตรงตลาดชา เราเลือกเข้าร้าน ผิง ผิง โภชนา อยู่ติดถนน และอยู่ตรงแยกทางขึ้นไปพระบรมธาตุฯ ด้วย

ณ ร้าน ผิง ผิง โภชนา ก็สั่งอาหารมาลองชิมกัน ขาหมู หมั่นโถ ยำใบชา เห็ดหอมอบซีอิ๊ว ข้าวสวย 1 จาน น้ำ 1 ขวด เช็คบิล 480 บาท

สถานที่ลำดับ 3 ท้องอิ่มแล้ว กองทัพพร้อมเดินทางไปยังสถานีต่อไป เราเลือกขึ้นไปยัง พระบรมธาตุฯ ก่อน ซึ่งเป็นเส้นทางที่เขาเตือนเรื่องความสูงชันของถนน ขึ้นไปแล้ว ชันจริงๆ เกิน 45 องศา แน่ๆ รถวิ่งได้ เกียร์ 1-2 เกียร์ 3 ได้แป๊ปๆ ก็ต้องเปลี่ยนเป็น 2 ถอยเกียร์เป็น 1 ช่วงไหนขึ้นชันๆ ทั้งคนขี่ คนซ้อน ต้องช่วยกันโน้มตัวไปด้านหน้า กลัวรถเหิรฟ้า ฮาๆ

พอถึงพระบรมธาตุ เจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี เป็นที่น่าเสียดายมาก กับมุมถ่ายภาพ เพราะเขากำลังปรับปรุงสถานที่ ณ จุดบนนี้ อากาศเย็นสบายดีมาก เราไปช่วงประมาณบ่ายโมง นั่งรับลม ดูวิวทิวทัศน์ ประมาณ ชั่วโมงกว่าเลย สูดอากาศสดชื่นเต็มปอดจนชุ่มฉ่ำ ก็พากันไปสถานีต่อไป

สถานที่ลำดับ 4 ลงจากพระบรมธาตุฯ เมื่อถึงทางแยกเราเลี้ยวขวา เพื่อไปยัง “พิพิธภัณฑ์อดีตวีรชนทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ” วันนี้ฟ้าเปิด ฟ้าใสมากๆ ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีประวัติศาสตร์ให้เราได้อ่านกัน เดินอ่านศึกษาประวัติศาสตร์กันอย่างเพลินๆ ได้ซักพัก ก็เตรียมตัวเดินทางต่อไป

สถานที่ลำดับ 5 มุ่งหน้าไปร้านกาแฟสด ที่ทางโรงแรมแนะนำว่าว่า น่านั่ง แบบนั่งจิบกาแฟสดไป ชมวิวทิวเขาไป เท่าที่ได้ข้อมูลเจ้าของร้านเคยอยู่กรุงเทพฯ แล้วย้ายมาทำร้านกาแฟบนดอยแม่สลอง เปิดมาแล้ว 8 ปี ชื่อร้าน “Sweet maesalong cafe” ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมหอมหมื่นลี้ และโรงแรมใกล้ๆ อีกแห่งก็ โรงแรมวังพุตตาล

นั่งรับชมลมวิว ดื่มกาแฟ เพิ่มพลังงาน เต็ม 100 แล้ว พร้อมไปอีกสถานที่ น่าจะเป็นสถานที่สุดท้ายสำหรับวันนี้ เพราะจะเย็นแล้ว เราออกจากร้านกาแฟ ตอน 16.30 น. (ร้านกาแฟ ปิด 17.00 น.)

สถานที่ลำดับ 6 ไร่ชา 101 ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5-6 โล ทางชัน ขึ้นดอย ลงดอย พอไปถึง ก็ขี่รถเข้าไปในไร่เลย เพราะมีทางรถวิ่งด้วย ถามเด็กๆ ที่ขี่รถออกมา ว่าเข้าไปได้ไหม เขาบอกว่าได้ เราก็จัดไป ขี่รถมุดเข้าไป ฮาๆ เจอทางลูกรัง แต่ก็ได้วิวมาพอสมควร เร่งถ่ายรูป เพราะเริ่มมืดแล้ว ช่วงนี้จะเริ่มมืดเร็วกว่าปกติ

กลับออกจากไร่ชา ก็ตรงไปยังที่พักก่อนเลย ไปเอาเสื้อกันหนาวเพิ่ม เพราะอากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว และก็มืดลงด้วย

มื้อเย็นนั่งร้าน CJ ใกล้กับร้านเซเว่น ร้านเปิดถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม ลานเริ่มหมด นั่งทานข้าวมื้อเย็นเสร็จก็กลับไปพักเลย จะได้มีแรงเที่ยวต่อพรุ่งนี้…..